4 best เครื่องดูดฝุ่นด้ามจับ ใช้งานได้ดี คุ้มค่า คุ้มราคา สุดยอดไปเลย!! ข้อมูลปี2024

เครื่องดูดฝุ่นถือเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่นิยมใช้กันมาก เพราะใช้งานสะดวก ไม่เลอะมือเหมือนการถูบ้าน แถมยังกำจัดฝุ่นผงที่ละเอียดเล็ก บางรุ่นทำได้ดีถึงขั้นดูดฝุ่นที่เล็กกว่า 0.5 ไมครอน ซึ่งให้ชีวิตคุณง่ายดายและมีสุขอนามัยที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกซื้อเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นมีข้อควรคำนึงอยู่หลายประการ เรามาดูกันเลยค่ะว่าเพื่อให้ได้เครื่องดูดฝุ่นที่ดีนั้นเราควรเริ่มต้นจากสิ่งใดบ้าง

ระบบการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดตามวิธีการเก็บฝุ่นผง ได้แก่ ชนิดถุงกระดาษหรือกล่องเก็บฝุ่น และชนิดพลังไซโคลน ซึ่งทั้ง 2 ชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไรนั้น เราจะกล่าวเป็นลำดับต่อไปค่ะ

ในแบบแรกนี้เป็นระบบการทำงานแบบดั้งเดิมของเครื่องดูดฝุ่นที่มักดูดเอาฝุ่นผง, เศษผม, เศษขยะต่าง ๆ ไปเก็บไว้ในถุงกระดาษที่อยู่ด้านใน เมื่อฝุ่นเต็มถุงก็ค่อยถอดถุงทิ้งไปทั้งอันได้เลย ซึ่งข้อดีของการใช้ถุงกระดาษคือ ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นโดยตรงได้

นอกจากนี้ ในปัจจุบันเพื่อเป็นการช่วยลดมลภาวะและขยะ จึงทำให้มีแบบซักทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ให้เลือกเพิ่มขึ้น หรือการใช้รุ่นที่มีกล่องเก็บฝุ่นซึ่งจะทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า แต่ขณะเทขยะคุณควรใช้ผ้าปิดจมูกด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้สูดดมเอาฝุ่นผงเข้าไปเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เครื่องดูดฝุ่นชนิดนี้ทำงานด้วยการใช้แรงลมดูดเอาฝุ่นผงและไอเสียรอบ ๆ เข้าไปกักเก็บไว้ด้านในถุงขยะหรือกล่องเก็บฝุ่นเพียงที่เดียว จึงทำให้เครื่องมีแนวโน้มที่จะปล่อยไอเสีย กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ และเศษผงเล็ก ๆ ที่ดูดเข้าไป ออกมาฟุ้งกระจายในอากาศจนส่งผลเสียต่อเด็กและผู้แพ้ง่ายได้ค่ะ

ถ้าใครที่ได้เปิดในแค็ตตาล็อกของเครื่องดูดฝุ่นที่เซลล์นำเสนอ ก็อาจจะเคยได้เห็น “หัวดูดแบบกังหัน” หรือ “หัวดูดพลังมอเตอร์” กันมาบ้างแล้ว  โดยหัวดูดแต่ละอันมีความแตกต่างกันอยู่หลายประการ โดยเฉพาะพลังดูดที่มีประสิทธิภาพ ว่าแต่จะแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนและในแง่อะไร ไปติดตามกันค่ะ

หัวดูดแบบพลังมอเตอร์จะมีแปรงปัดอยู่ด้านในทำงานด้วยพลังดูดที่สูงกว่าแบบกังหัน ทรงประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นได้รอบทิศทาง เหมาะกับการใช้ดูดฝุ่นบนพื้นพรม, พื้นผิวขรุขระอย่างบนโซฟา, ผ้าปูขนสัตว์ หรือจะเป็นพื้นเรียบก็จะสามารถใช้ได้ ชนิดที่ว่าไม่ต้องออกแรงเยอะก็ทำความสะอาดได้หมดจด ไม่จำเป็นต้องถูไป-มาซ้ำ ๆ เพียงแค่เลื่อนหัวดูดไปข้างหน้าและออกแรงกดนิดหน่อย คุณก็จะได้พื้นที่สะอาด ปลอดไรฝุ่นแล้วค่ะ

โดยทั่วไปแล้ว เครื่องดูดฝุ่นจะมีน้ำหนักตัวเครื่องประมาณ 5 kg แต่ถ้าคุณต้องการความสะดวกสบายในการเคลื่อนย้าย เราแนะนำให้คุณเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 4 kg ซึ่งมีให้เลือกเยอะพอสมควร เพราะผู้ผลิตหลายเจ้าเริ่มปรับขนาดตัวเครื่องให้เล็กลง เป็นต้นว่าน้ำหนัก 3 kg ก็มีให้เห็นกันอยู่ไม่น้อย ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ต่อตัวคุณเอง จะได้ทำงานบ้านอย่างมีความสุขและไม่เปลืองแรงจนเกินไป

เมื่อได้ยินอย่างนี้แล้ว หลายคนคงเริ่มลังเลไปใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบมือจับที่สะดวกเคลื่อนย้ายมากกว่าแล้วใช่ไหมคะ ถ้าคุณอาศัยในห้องเล็ก ๆ ก็คงพอได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นบ้านหลังใหญ่หรือในห้องกว้าง ๆ เครื่องดูดฝุ่นจำพวกนั้นอาจไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร เพราะมีข้อด้อยหลายประการเช่น ประสิทธิภาพของหัวดูด, ถังเก็บฝุ่นขนาดเล็กและมอเตอร์ทำงานได้ช้ากว่า ฉะนั้น แม้จะมีความสะดวกตอบโจทย์ก็จริง แต่อย่าลืมเลือกให้เหมาะกับพื้นที่บ้านของคุณด้วยนะคะ

ในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นคุณยังต้องคำนึงถึงฟีเจอร์อื่น ๆ เพื่อประโยชน์ใช้สอยด้วย ตัวอย่างเช่น รุ่นที่เพิ่มหัวแปรงที่ซอกซอนกำจัดเชื้อแบคทีเรียและความสกปรกระดับเล็กมาก ๆ หรือรุ่นที่มีเซนเซอร์แจ้งเตือนเมื่อถังขยะใกล้เต็มแล้วเพื่อให้คุณสับเปลี่ยนได้ทันที ถ้าการทำความสะอาดทำได้ง่ายดาย ไม่เปลืองแรง จะทำให้คุณมีความสุขในการทำงานบ้านยิ่งขึ้น แถมยังรู้สึกอยากเก็บ-ทำความสะอาดห้องแบบไม่มีเบื่อเลยค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับเคล็ดลับวิธีการเลือกเครื่องดูดฝุ่นให้เหมาะกับการใช้งานที่เรานำมาฝากกัน ซึ่งนอกจากบทความนี้แล้ว เรายังมีบทความดี ๆ ที่จะมาแนะนำเครื่องดูดฝุ่นแบบอื่น ๆ และไอเทมทางเลือกอย่าง "หุ่นยนต์ดูดฝุ่น" ที่จะมาเป็นผู้ช่วยคุณแม่บ้านทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ตามมาอ่านกันเลยค่ะ

เมื่อได้ทราบวิธีการเลือกเครื่องดูดฝุ่นกันไปแล้ว อันดับต่อไปเราจะมาแนะนำ 10 อันดับเครื่องดูดฝุ่น ที่เป็นที่นิยม ขายดิบขายดี ให้คุณผู้อ่านได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ แถมยังหาซื้อได้ง่ายทางร้านค้าออนไลน์อีกด้วย เหมาะกับวิถีคนในสังคมยุคดิจิตอลอย่างแท้จริงเลยค่ะ

นอกจากเลือกใช้ให้ถูกต้องตามวิธีที่เราแนะนำไปแล้ว การทำความเข้าใจกับการดูแลรักษาเพื่อคงสภาพเครื่องดูดฝุ่นให้ทำงานได้ดีในระยะยาวก็สำคัญด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อใช้งานอย่างหนักหน่วงแล้วทำความสะอาดเป็น ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องไปได้อีกนานเลยค่ะ

หัวดูดนี้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำงานหนัก เพราะต้องทำหน้าที่ดูดสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น เศษผม, ฝุ่นผง ซึ่งเมื่อสิ่งเหล่านี้ไปสะสมอยู่ระยะยาวจะทำให้ปิดกั้นช่องทางการดูดสิ่งต่าง ๆ ได้ ดังนั้น แนะนำให้เปิดหัวดูดทำความสะอาดและตรวจเช็คสภาพเป็นประจำอย่างน้อยทุก ๆ 1 เดือน เพื่อให้เครื่องดูดฝุ่นยังคงประสิทธิภาพได้ดีเยี่ยม และยาวนานขึ้นค่ะ

ว่ากันว่าเพื่อความสะอาดทั่วถึง ควรกะจังหวะการถูไถหัวดูดฝุ่นไปมาเป็นรอบ ๆ ละ 5 – 6 วินาทีจะดีที่สุดค่ะ เนื่องจากเป็นช่วงจังหวะที่กำลังพอดีไม่เร็วไม่ช้าเกินไป อีกทั้งถ้าคุณลากหัวดูดเร็วเกินไปเพื่ออยากทำให้เสร็จเร็ว ๆ ก็จะทำให้พื้นห้อง/พื้นบ้านของคุณไม่สะอาดเท่าที่ควร แถมคุณยังเสียแรงเปล่าอีกด้วย

สำหรับระยะในการถูเครื่องดูดฝุ่นไปมาขณะทำความสะอาดแต่ละครั้งนั้น เราแนะนำว่าควรขยับหัวดูดให้ออกห่างจากตัวประมาณ 1/2 ของความสูงของคุณ เพราะถ้าขยับใกล้ตัวเกินไป จะทำให้คุณขยับแขนถูทำความสะอาดถี่ขึ้นและทำให้เหนื่อยง่ายกว่าที่ควรจะเป็น หรือถ้าถูออกห่างจากตัวเกินไปก็จะทำให้ปลายหัวดูดเชิดขึ้นจนไม่สามารถดูดเอาสิ่งสกปรกได้เท่าที่ควรนั่นเอง

เป็นที่ทราบกันดีว่า พื้นพรมหรือที่นั่งขนสัตว์นุ่ม ๆ ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นจำนวนมากแล้ว แต่ยังเป็นสาเหตุของการเกิดตัวไรฝุ่นด้วย ซึ่งพื้นที่เช่นนี้ทำความสะอาดได้ยากและต้องใช้ความพิถีพิถันมากกว่า ดังนั้นคุณจึงควรใช้เครื่องดูดฝุ่นอย่างละเอียดทั้งแนวตั้งและแนวนอน เน้นย้ำความสะอาดด้วยการดูดซ้ำ 2-3 ครั้ง เพียงเท่านี้ก็ปลอดภัยหายห่วงจากฝุ่นผงและไรฝุ่นแล้วค่ะ

เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ อาจมีความสะดวกสบายเหมาะสมกับการใช้งานดูดฝนบนพื้นที่โล่ง เช่น บริเวณโถงพื้นเรียบ หรือพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีเฟอร์นิเจอร์เกะกะ เพราะมีด้ามที่สามารถเคลื่อนย้ายหมุนไปในทิศต่าง ๆ ได้ แต่หากการทำความสะอาดในพื้นที่ขนาดเล็กที่มีสิ่งของมาก หรือการทำความสะอาดบนพื้นพรม แน่นอนว่า "เครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือ" นั้นจะใช้งานได้ง่ายกว่า เพราะมีน้ำหนักเบาและสามารถยกข้ามสิ่งของต่าง ๆ ได้ถนัดมือกว่าครับ