ยอดนิยม ipad ระดับเทพ ข้อมูลปี2024
สุดยอดนิยมipadระดับเทพ ❆ โต๊ะพับอเนกประสงค์ขนาดพกพา โต๊ะพับ โต๊ะวางโน๊ตบุค โต๊ะคอม โต๊ะอ่านหนังสือ โต๊ะเขียนหนังสือ พับเก็บได้ วางโทรศัพท์ ipad บริการที่คุณมั่นใจ ในราคาที่คุณพอใจ ผลิตภัณฑ์คุณภาพอันยอดเยี่ยม เลือกส่งในแบบที่คุณชอบ พร้อมดีลพิเศษ โปรโมชั่น การันตีคอลเลคชั่นใหม่ พร้อมการจัดส่ง ส่งฟรี สินค้ามีให้เลือกหลากหลาย ช้อปปิ้งออนไลน์ที่นี่กับราคาออนไลน์ที่ถูกที่สุด.
หากคุณกำลังมองหาipadพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมipadชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ ❆ โต๊ะพับอเนกประสงค์ขนาดพกพา โต๊ะพับ โต๊ะวางโน๊ตบุค โต๊ะคอม โต๊ะอ่านหนังสือ โต๊ะเขียนหนังสือ พับเก็บได้ วางโทรศัพท์ ipad ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับแนะนำ 1 อันดับ ipad ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้
บทสรุป
สำหรับการรีวิวipad ชิ้นนี้ หวังว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการอ่านในครั้งนี้ ขอบคุณมากๆนะคะหลังจากที่ Apple ได้เปิดตัว New iPad Pro ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กระแส iPad กลายเป็นประเด็นร้อนแรง กำลังเป็นที่น่าสนใจ เพราะคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับจอแสดงผลจาก Retina ที่ให้ภาพที่สวยงาม คมชัดทุกรายละเอียด มาพร้อมกับ Apple Pencil ให้คุณสามารถวาดรูป จดบันทึกราวกับกำลังใช้ปากกาบนจอของคุณได้อย่างลื่นไหล ใช้งานง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ทีมงานเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะสับสนว่าควรจะเลือกรุ่นไหนดีใช่ไหมล่ะคะ เพราะแต่ละรุ่นก็มีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีเลือก iPad ให้เข้ากับตัวเอง รวมถึงแชร์ 10 อันดับ รุ่นที่ได้รับความนิยม มาให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันค่ะ
เริ่มแรกทีมงานมีวิธีการเลือก iPad ให้เข้ากับการใช้งานของตัวเองมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ
iPad ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้น ให้เลือกจากลักษณะการใช้งานและงบประมาณของคุณเป็นหลักค่ะ
iPad Pro ขนาด 11 และ 12.9 นิ้ว ในรุ่นล่าสุดนั้น ได้มีการปรับปรุงฟังก์ชันเพิ่มเติมจากรุ่นก่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงตัวตนด้วยใบหน้า ยกเลิกระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ และปรับปรุงดีไซน์โดยการยกเลิกปุ่มโฮม เพื่อให้ดูสะอาดตามากยิ่งขึ้น
มีการใช้ชิป A12X ในทั้ง 2 รุ่น ซึ่งสามารถประมวลผลได้มากกว่า iPad Mini 4 ถึง 8 เท่า และเหนือกว่า MacBook Pro รุ่นเก่าอีกด้วย ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องใช้กำลังไฟ เช่น การตัดต่อวิดีโอและรูปภาพ
นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับ Smart Keyboard และ Apple Pencil รุ่นล่าสุดได้ ดังนั้น โดยรวมแล้วทั้งสองรุ่นนี้จึงแตกต่างกันที่ขนาด หากคำนึงถึงการพกพาอย่างสะดวก แนะนำให้เลือกขนาด 11 นิ้ว และหากต้องการจดบันทึกต่าง ๆ หรือใช้เป็นเครื่องเขียน ควรเลือกขนาด 12.9 นิ้ว เพราะจอที่ขนาดใหญ่กว่าทำให้สะดวกในการใช้งานมากกว่า
หากคุณชอบความสะดวกสบายจากการสแกนลายนิ้วมือจากปุ่มโฮม แนะนำให้ใช้รุ่นหน้าจอขนาด 10.5 นิ้ว มากกว่าค่ะ เพราะระบบรักษาความปลอดภัยโดยการจดจำใบหน้าก็มีข้อเสียตรงที่อาจจะตอบสนองได้ไม่ดีเมื่อคุณอยู่ในที่มืด แต่ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณใช้ระบบการตรวจสอบลายนิ้วมือ ในทางกลับกันปุ่มโฮมก็มีการใช้งานที่ซับซ้อนเช่นกัน หากคุณเคยใช้ Tablet แบรนด์อื่น และเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ iPad ก็อาจจะยังไม่คุ้นเคยในการใช้งานช่วงแรก ๆ ได้
ถึงแม้ว่าปุ่มโฮมจะไม่มีการติดตั้งในรุ่นล่าสุด แต่ชิปที่ติดตั้งในรุ่น 10.5 นิ้ว นั้นเป็น A10X ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 4.3 เท่าของ A8 ที่มีการใช้ใน iPad Mini 4 ซึ่งแม้แต่เกม 3 มิติ ที่ต้องการความแรงในการประมวลผลเป็นจำนวนมาก ก็สามารถแสดงผลได้อย่างราบรื่นทีเดียวค่ะ
หากวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นแบบทั่วไป เช่น การเล่นอินเทอร์เน็ตหรือเล่นเกม iPad 6 จะเหมาะสมกับการใช้งาน และมีราคาที่สมเหตุสมผลกว่า ชิปที่ติดตั้งคือ A10 ที่ประมวลผลได้ 2.7 เท่า ของชิป A8 รุ่นนี้มาพร้อมปุ่มโฮมและรองรับการสแกนลายนิ้วมือ สามารถใช้ควบคู่กับ Apple Pencil 1st Gen ได้ดี จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวาดรูปเช่นกัน ปัจจุบันร้านค้าทางการของ Apple จัดจำหน่ายเฉพาะรุ่นล่าสุดเท่านั้น ดังนั้น หากคุณซื้อจากร้านค้าทั่วไปที่ไม่ใช่ร้านค้าที่เป็นทางการ อย่าลืมตรวจสอบรุ่นที่จะซื้อกันด้วยนะคะ
iPad Mini 4 นั้นจัดว่ามีขนาดเล็กกะทัดรัดมากกว่ารุ่นอื่น ๆ พกพาสะดวก มีขนาด 7.9 นิ้ว และด้วยดีไซน์ที่เล็กและเบาเป็นพิเศษ จึงง่ายต่อการพกพาไปใช้นอกสถานที่เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับซีรีส์ iPad Pro ที่มีการตัดแสงสะท้อนที่หน้าจอแสดงผล จึงทำให้เห็นแสงหน้าจอได้ดีขึ้น แม้ใช้งานนอกอาคาร
iPad 6th Gen จะมีความจุ 32GB และ 128GB ให้เลือก ส่วน iPad Pro จะมีขนาด 64GB, 256GB, 512GB และ 1TB หากคุณใช้สำหรับถ่ายและเก็บรูป ก็สามารถเลือกความจุที่ 32GB ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วค่ะ แต่สำหรับคนที่ชอบเล่นเกม โดยเฉพาะเกม 3D จะต้องใช้ความจุอย่างน้อย 64GB หรือ 128GB ขึ้นไป และหากชอบถ่ายภาพชนิด 4K แนะนำให้เลือกความจุที่ 512GB หรือ 1 TB เนื่องจาก iPad Pro ขนาด 11 และ 12.9 นิ้ว ไม่มีช่องเสียบการ์ด SD หากจะเพิ่มจำนวนความจุสามารถทำได้โดยใช้ USB - C ส่วนโมเดลอื่น ๆ ใช้ช่องต่อ Lightning ในการเพิ่มความจุค่ะ
เทคโนโลยีต่าง ๆ ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลของ iPad เช่น การแสดงช่วงสีที่กว้างขึ้น, การปรับความสว่างของสีอัตโนมัติ, และเทคโนโลยี True Tone / ProMotion ที่ช่วยให้หน้าจอสว่างและราบรื่นขึ้น นอกจากนี้ ยังพัฒนาด้านดีไซน์และตัวบอดี้ เช่น หน้าจอที่เคลือบสารป้องกันรอยนิ้วมือ เพื่อให้จอดูสะอาดตา และเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ช่วยกันแสงและใช้งานนอกอาคารได้ดีมากยิ่งขึ้น
iPad Pro นั้น จะมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกี่ยวหับหน้าจอไว้อย่างครบครัน แต่ iPad จะมีเพียงการเคลือบที่หน้าจอเพื่อป้องกันลายนิ้วมือเท่านั้น ส่วน iPad Mini 4 จะมีการเคลือบที่หน้าจอเพื่อกันลายนิ้วมือ และเคลือบแบบเต็มจอ ซึ่งเทคโนโลยีก็มีความแตกต่างกันในแต่ละรุ่นค่ะ
iPad มีกล้อง 2 ประเภท คือ กล้องด้านหลังและกล้องด้านหน้า และซีรีส์ iPad Pro จะมีความละเอียดสูงถึง 12 ล้านพิกเซลสำหรับกล้องด้านนอก และ 7 ล้านพิกเซลสำหรับกล้องหน้า และยังมีฟังก์ชันป้องกันภาพสั่นไหวของ Live Photo ดังนั้นซีรีส์ iPad Pro จึงเหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปทีเดียว
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารุ่นล่าสุดจะมีประสิทธิภาพดีที่สุดนะคะ อย่างเช่น iPad Pro ขนาด 10.5 นิ้ว ที่มีวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2560 ก็ยังมีฟังก์ชันป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล ซึ่งไม่ได้ติดตั้งในรุ่นหลัง ๆ ดังนั้น หากคุณต้องการเน้นถ่ายภาพและวิดีโอบน iPad แนะนำรุ่นขนาด 10.5 นิ้วค่ะ
หากคุณต้องการใช้ Apple Pencil ซึ่งสะดวกสำหรับการเขียนด้วยลายมือหรือวาดรูปภาพ และการใช้ Smart Keyboard ซึ่งสะดวกสำหรับการพิมพ์ แนะนำให้คุณเลือกซื้อซีรีส์ iPad Pro Apple Pencil นั้นสามารถใช้กับ iPad 6 และ 1 ได้ดี แต่ทั้ง 2 รุ่น จะไม่รองรับ Smart Keyboard ซึ่งหากคุณต้องการใช้อุปกรณ์ทั้งสองชนิด จะต้องเลือกซีรีส์ iPad Pro ขนาด 10.5, 11, หรือ 12.9 นิ้วค่ะ
iPad ในปัจจุบันมีหลายรุ่นที่สามารถทำงานได้ไม่ต่างกับโน้ตบุ๊กสเปกแรง ๆ เลย ใครที่ต้องการใช้ในการพิมพ์งาน เพียงแค่มีคีย์บอร์ด iPad ก็สามารถแปลงเป็นร่างเป็นโน้ตบุ๊กได้ทันที ส่วนใครที่ปวดใจกับการต้องแบกชีทเยอะ ๆ หรือหนังสือหนา ๆ ก็เลิกกังวลไปเลยหากมีเจ้า iPad เพราะเพียงแค่มีปากกา Stylus คุณก็สามารถเขียนสรุปหรือจดบันทึกด้วยลายมือของคุณได้อย่างง่ายดาย
มาถึงช่วง 10 อันดับ iPad ที่เป็นที่ยอดนิยมกันแล้ว จะมีรุ่นอะไรและมีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไรบ้างนั้น ทางทีมงานมายเบสท์ได้ทำการเปรียบเทียบฟังก์ชันต่าง ๆ มาให้แบบเป็นตารางที่ง่ายต่อการเปรียบเทียบในการตัดสินใจแล้วค่ะ พร้อมแล้วไปดูกันเลย
รุ่นนี้มีดีไซน์ที่หรูหรา ด้วยจอภาพแบบ Liquid Retina การแสดงผลแบบ True Tone กระจก Touch Screen แบบเต็มจอ รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้าจากระบบ Face ID มีการใช้ชิพประมวลผลที่ทำงานได้ดี ดำเนินรายการได้มากกว่า 5 ล้านรายการในวินาทีเลยทีเดียว ใช้งานได้ดีร่วมกับอุปกรณ์เสริมของแบรนด์ ตัวกล้องมีความละเอียดสูง ใช้ซูมดิจิทัลได้ถึง 5 เท่า พร้อมระบบแตะเพื่อโฟกัส มีฟังก์ชันป้องกันภาพสั่นไหว เมื่อกกด Live Photos รองรับทั้ง Wi-Fi และ Cellular ถือว่าเป็นรุ่นที่ครบครันทุกฟังก์ชัน แต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนักที่มากขึ้น หากคุณไม่ค่อยพกพาไปไหน รุ่นนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานค่ะ
รุ่นนี้มีหน้าจอ Retina เป็นกระจกทั้งหมด ไม่มีขอบและไม่มีปุ่มโฮม ผสมผสานกับเทคโนโลยี ProMotion ช่วยให้สีสันหน้าจอที่สวยงามและตอบสนองได้ดีเยี่ยม รองรับระบบ Face ID ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ออกแบบมาให้รองรับการทำงานที่หลากหลาย ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสั่ง กราฟิกทำงานได้ไวกว่าถึง 2 เท่า ตัวกล้องมีคุณภาพสูงที่ความละเอียด 12 MP สามารถถ่ายวีดีโอขนาด 4K และสแกนเอกสารได้ดี ที่สำคัญ รุ่นนี้ยังมีระบบ Wi-Fi อีกด้วย มีตัวเชื่อมต่อ USB-C รุ่นนี้ประมวลผลได้เร็วจึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นเกม การใช้งานหลาย ๆ โปรแกรมพร้อม ๆ กัน
รุ่นนี้มีขนาดหน้าจอ 10.5 นิ้ว จึงทำให้มีน้ำหนักน้อยไปด้วย เหมาะสำหรับพกพา ที่สำคัญ และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน นอกจากจุดเด่นที่มีน้ำหนักบางเบาแล้ว ยังสามารถใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เชื่อมต่อได้ง่ายทุกสถานที่ ใช้งานได้หลากหลายในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อหนัง, เล่นเกม, หรือใช้ทำงาน และยังใช้งานร่วมกับ Apple Pencil และ Smart Keyboard ได้ ทำให้คุณขีด ๆ เขียน ๆ หรือพิมพ์อัปเดตบล็อกได้อย่างสะดวก
iPad Pro รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประสิทธิภาพระดับพรีเมียม โดดเด่น ด้วยฟีเจอร์สำคัญอย่างครบถ้วน มาพร้อมระบบประมวลผลแบบ Neural Engine ที่ทำงานได้ดี กราฟิกแรงขึ้น 2 เท่า โดดเด่นด้วยจอ Retina ที่รองรับขอบเขตสีกว้างพร้อม True Tone Display ที่ช่วยให้มองจออย่างสบายตา ระบบ ProMotion ของรุ่นนี้ยังเพิ่มการตอบสนองได้อย่างดี กล้องมีความละเอียดสูง ที่สำคัญ ยังสามารถใช้ได้ทั้ง Wi-Fi และ Cellular ให้คุณท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างสบาย ใช้ได้ทุกสถานที่เลยทีเดียว
หากคุณมองหารุ่นที่พกพาไปด้วยได้ทุกที่ และมีประสิทธิภาพการทำงานสูง iPad Mini รุ่นนี้จะตอบโจทย์ได้อย่างดีเลยค่ะ เพราะมีขนาดที่เล็ก และพร้อมหยิบออกมาใช้งานทุกเวลาแล้ว ยังมีคุณภาพสูงและครบทุกฟังชันก์อีกด้วยค่ะ รุ่นนี้มาพร้อมจอ Retina ที่ช่วยให้คุณรู้สึกสบายตาแม้ใช้เวลานาน เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ 4G LTE Advanced ได้ทุกเวลาที่คุณต้องการ ชิปประมวลผลทำงานเร็วขึ้น เท่า ตัวกล้องยังรองรับการถ่ายภาพแบบ HD และวีดีโอระดับภาพยนตร์อีกด้วย
แม้จะเป็นรุ่นเก่าที่ออกมาตั้งแต่ปี 2018 แต่รุ่นนี้ก็ยังขายดิบขายดีในร้านค้าออนไลน์อยู่ เพราะออกแบบมาในขนาดพอดีตัว ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ทำงานได้รวดเร็วจนน่าประทับใจ ช่วยให้ใช้งานได้คล่องตัวและง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็น การตัดต่อวีดีโอ 4K หรือการเล่นเกมที่เน้นกราฟิก รุ่นนี้ยังรองรับเทคโนโลยี AR อีกทั้ง ยังเป็นได้ทั้งสมุดโน้ตและกล้องที่ให้ความละเอียดสูง สามารถถ่ายวีดีโอ HD และสแกนเอกสารได้อย่างดี เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้ด้วย Bluetooth และรุ่นนี้ยังมีระบบ Wi-Fi และ 4G LTE ให้คุณพร้อมออนไลน์ได้ทุกเวลา
จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ประสิทธิภาพการทำงานที่สูง ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว รองรับการใช้งานที่หนักหน่วง หน้าจอ Retina ที่เด่นเรื่อง True Tone Display ไม่ทำให้ปวดตาแม้ใช้เป็นเวลานาน อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ให้คุณพร้อมใช้งานทุกประเภท ไม่ว่าจะจดไอเดีย, ดูหนังฟังเพลง, วาดรูป, ใช้ทำงาน, หรือใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี และถึงแม้รุ่นนี้จะไม่รองรับระบบ Cellular แต่ก็มาในราคาที่ถือว่าคุ้มค่ากับฟีเจอร์อื่น ๆ เป็นอย่างมากค่ะ
สำหรับใครที่เน้นการพกพา iPad ได้ง่ายๆ จะต้องถูกใจกับรุ่นนี้แน่นอน เพราะมีดีไซน์ที่เล็กกะทัดรัด แต่เต็มไปด้วยฟีเจอร์ดี ๆ มากมาย ให้คุณพร้อมใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาจริง ๆ ค่ะ รุ่นนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน มาพร้อม Neural Engine ที่ยกประสิทธิภาพในการประมวลผลและมอบกราฟฟิกที่สวยงาม มีรายละเอียดหน้าจอถึง 3 ล้านพิกเซล รองรับกับอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ ๆ ได้ดี และยังสามารถเชื่อม Wi-Fi ได้อีกด้วย
รุ่นนี้ออกแบบมาให้มีการใช้งานที่คล้ายคลึงกับคอมพิวเตอร์ รองรับการใช้งานหนักได้อย่างดี ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมได้ดี มีการตอบสนองของหน้าจอได้ดี ทำให้จดโน้ตหรือเขียนไอเดียได้อย่างง่ายมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากนั้น คุณยังสามารถใช้ร่วมกับ MFi ให้ iPad ทำหน้าที่เหมือนคอนโซลเกมพกพา รองรับการตัดต่อระดับโปรพร้อมฟีเจอร์สนุก ๆ แบตเตอรี่ยังทนทาน ใช้งานได้ตลอดวัน รุ่นนี้ยังสามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้ด้วยระบบ Wi-Fi อีกด้วยค่ะ
รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบตัวบอดี้ที่มีน้ำหนักเบา แต่ประสิทธิภาพการทำงานสูง หน้าจอดีไซน์ออกมาให้สบายตา อ่านง่าย แสดงรายละเอียดได้ชัดเจน ตอบสนองการสั่งงานจากปลายนิ้วได้ดีเยี่ยม นอกจากนั้น รุ่นนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่ทนทาน สามารถใช้ได้ทั้งวัน สามารถเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi ใช้งานพร้อมกันได้หลายแอปพลิเคชัน มีกราฟิกที่เร็ว ตัวกล้องรองรับระบบ AR ได้ดี สามารถบันทึก, พิมพ์งาน, หรืออื่น ๆ จึงเหมาะสำหรับนักศึกษาและคนวัยทำงานเป็นอย่างมากเลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากที่ได้ดูวิธีการเลือก iPad และฟังก์ชันของแต่ละรุ่นกันไปแล้ว คงจะทราบกันดีว่าแต่ละรุ่นก็มีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน หลังจากที่ได้นำเสนอ 10 อันดับ รุ่นที่น่าสนใจกันไปแล้ว หวังว่าเพื่อน ๆ จะสามารถใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อช่วยในการเลือกได้ง่ายขึ้นกันนะคะ
เพราะ iPad นั้นก็มีหลากหลายฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นขนาด, ดีไซน์, ความจุ, และอื่น ๆ ทีมงานจึงอยากแนะนำให้เลือกตามเทคนิคที่ได้แชร์ไปในบทความ รับรองว่าทุกคนจะสามารถเลือกรุ่นที่ถูกใจ และตรงกับไลฟ์สไตล์ในการใช้งานกันอย่างแน่นอนค่ะ