น้ำตาล ขายดี 10 อันดับที่น่าซื้อ ข้อมูลปี2024

เมื่อเราจำเป็นต้องดื่มน้ำทุกวัน แต่น้ำดื่มในท้องตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อ เพื่อการเลือกน้ำดื่มที่ถูกใจเรา มาดูกันก่อนเลยค่ะว่ามีจุดไหนที่ต้องพิจารณากันบ้าง

น้ำดื่ม แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ น้ำดื่มธรรมดาและน้ำแร่ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีแหล่งผลิตที่แตกต่างกัน แต่จะแตกต่างกันอย่างไรและน้ำแบบไหนเหมาะกับเรานั้น ต้องศึกษาจากรายละเอียด ดังต่อไปนี้ค่ะ

น้ำดื่มธรรมดาเป็นน้ำดื่มจากแหล่งน้ำทั่วไป ที่ผู้ผลิตนำมาผ่านกรรมวิธีการกรองและกระบวนการต่าง ๆ ที่ได้มาตรฐาน และบางยี่ห้ออาจมีการฆ่าเชื้อด้วยระบบโอโซน จึงได้น้ำที่สะอาดและปลอดภัย เป็นน้ำดื่มที่หาได้ทั่วไป มีราคาไม่แพง นอกจากนี้ หลายคนอาจคิดว่าการดื่มน้ำแร่มีประโยชน์มากกว่าน้ำธรรมดา ซึ่งอันที่จริงแล้วน้ำธรรมดาก็มีแร่ธาตุอยู่เหมือนกัน แต่มีในปริมาณที่น้อยกว่า สามารถดื่มได้ตามที่ร่างกายต้องการ โดยไม่ส่งผลเสียต่อผู้ที่มีปัญหาสุขภาพด้วยค่ะ

น้ำแร่ เป็นการนำน้ำจากชั้นใต้ดินของแหล่งธรรมชาติที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าน้ำธรรมดา เช่น เทือกเขาสูงหรือแหล่งน้ำพุร้อน มาผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อก่อนบรรจุลงขวด ซึ่งจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุหลากชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม, ฟลูออไรด์, ไอโอดีน, โพแทสเซียม, สังกะสี, โซเดียม, ซิลิกา และซัลเฟต เป็นต้น

แต่ถึงแม้ว่าน้ำแร่จะมีแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกาย หากได้รับในปริมาณมากไปก็อาจเป็นโทษได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง, โรคไต, โรคหัวใจ, หญิงตั้งครรภ์ นอกจากนี้ คนที่ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ต้องระมัดระวังด้วย เพราะไตอาจทำงานหนักเพื่อขับส่วนเกินออกมา จึงควรบริโภคเพื่อความสดชื่นแต่พอดีเท่านั้น เพราะโดยปกติเราก็ได้รับแร่ธาตุเพียงพอจากอาหารในแต่ละมื้ออยู่แล้วค่ะ

หลายคนที่ลองดื่มน้ำต่างยี่ห้อกัน อาจสังเกตได้ว่า น้ำดื่มบางยี่ห้อมีความฝาด บางยี่ห้อมีรสหวาน และบางยี่ห้อก็มีกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งรสชาติและกลิ่นเหล่านี้จะจางมาก จนบางคนก็อาจจะแยกความแตกต่างไม่ออกเลยด้วยซ้ำ แต่การที่น้ำมีรสชาติและกลิ่น ไม่ได้หมายความว่า น้ำดื่มยี่ห้อนั้นได้รับการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่เป็นเพราะชนิดของน้ำดื่ม, แหล่งน้ำ, กระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน และมีแร่ธาตุในจำนวนที่ไม่เท่ากัน จึงได้รสชาติที่แตกต่างกันไปด้วย ดังนั้น จึงควรเลือกน้ำดื่มยี่ห้อที่เราถูกใจ และไม่รู้สึกลำบากใจในการดื่ม เพื่อให้สามารถดื่มในปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันได้ค่ะ

เนื่องจากน้ำดื่มในท้องตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อ สำหรับในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป คงไม่มีปัญหาเรื่องของน้ำดื่มที่ไม่มีคุณภาพ แต่หากเราต้องออกไปในพื้นที่ห่างไกล อาจมียี่ห้อให้เลือกไม่มากนัก จึงควรเลือกน้ำดื่มที่มีเครื่องหมายของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทุกครั้ง และเลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน GMP หรือมาตรฐานอื่น ๆ เพื่อรับรองว่า โรงงานผลิตนั้นมีการเปลี่ยนไส้กรองน้ำตามระยะเวลาที่กำหนด และมีการฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐานสากล รวมไปถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยไม่มีสารหรือสีออกมาปนเปื้อน

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงน้ำดื่มที่สังเกตได้ชัดว่า ไม่ได้มาตรฐานและดูไม่มีความปลอดภัย เช่น มีกลิ่นที่ชัดเจน มีสีขุ่น หรือตกตะกอน เพื่อป้องกันผลเสียต่อร่างกายในภายหลังค่ะ

นอกจากประเภทและยี่ห้อที่เราถูกใจแล้ว ควรเลือกปริมาณที่เหมาะสมกับการดื่มของเราด้วย หากต้องการพกติดตัวออกไปข้างนอก ก็ควรเลือกขวดขนาดมาตรฐานที่บรรจุน้ำประมาณ 0.5 - 0.6 ลิตร แต่ถ้าหากใช้ดื่มในบ้านหรือที่ทำงานโดยไม่ต้องพกพาไปไหน แนะนำให้เลือกขวดขนาด 1.5 ลิตร หรือแบบแกลลอน เพราะเมื่อเทียบกันแล้ว ยิ่งน้ำบรรจุในภาชนะที่ใหญ่ ก็ยิ่งมีราคาที่ถูกมากกว่าเมื่อเทียบปริมาณ เพราะสามารถลดจำนวนในการผลิตภาชนะบรรจุ และยังเป็นการช่วยลดขยะพลาสติกได้อีกด้วยค่ะ

ถึงแม้ว่าน้ำดื่มจะผ่านกระบวนการกรองและฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยมาจากโรงงานผู้ผลิต แต่น้ำดื่มที่เราซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านสะดวกซื้อ ล้วนผ่านการขนส่งและจุดพักสินค้า ซึ่งอาจทำให้บรรจุภัณฑ์เกิดการรั่วไหล ถูกเปิดออก และเกิดการเจือปนได้ จึงต้องตรวจสอบให้ดีว่า น้ำที่เราเลือกซื้อมีความใสสะอาด, ไม่ขุ่น, ไม่มีตะกอน และไม่มีร่องรอยของการถูกเปิดออก โดยสามารถตรวจสอบที่ฝาและพลาสติกซีล ว่ามีการเชื่อมต่อกันอย่างดีหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยค่ะ

ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยแล้ว อันดับแรก เรามาเริ่มจากยี่ห้อน้ำดื่มธรรมดา ที่ใคร ๆ ก็ดื่มได้ ยิ่งดื่มยิ่งดีต่อสุขภาพ แถมยังหาซื้อได้ทั่วไปอีกด้วย จะมียี่ห้อไหนบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ต่อไปก็ถึงเวลาของน้ำแร่กันแล้ว มาเพิ่มความสดชื่นและเติมแร่ธาตุที่จำเป็นให้กับร่างกายของเรากันค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่จำเป็นต้องรับแร่ธาตุเพื่อดูแลซ่อมแซมร่างกาย ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ

เมื่อทราบถึงการเลือกน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัยแล้ว ก็อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ การดื่มน้ำให้เพียงพอกับปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป เพราะถึงแม้ว่าเราจะดื่มน้ำแร่ที่มีราคาแพง แต่ดื่มในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกายอยู่ดีค่ะ และหากดื่มมากเกินความจำเป็น ก็จะทำให้ไตทำงานหนักขึ้นด้วย เพราะต้องขับส่วนเกินออก ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะเลือดจางและเซลล์บวมน้ำตามมาได้

นอกจากนี้ ยังขอฝากไว้อีกสักเล็กน้อยสำหรับวิธีการดื่มน้ำระหว่างวันที่ดีคือ การจิบเรื่อย ๆ ทั้งวันอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่รอให้กระหายเต็มที่ถึงค่อยดื่ม ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกมาได้เรื่อย ๆ โดยไม่สะสมค่ะ มาดื่มน้ำเพื่อสุขภาพที่ดีกันนะคะ

ในช่วงเวลาของการดื่มชาหรือกาแฟ เรามักจะคุ้นเคยภาพของโถน้ำตาลที่จะวางคู่กันเสมอ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำตาลแบบไหนเหมาะกับชาหรือกาแฟของคุณ? ถ้าพูดกันถึงเรื่องลักษณะรูปแบบของน้ำตาล หลายท่านสะดวกที่จะใช้ช้อนตักจากโถ มากกว่าการฉีกจากซองหรือใช้แบบแท่ง แต่ถ้าหากคุณมีแขกคนสำคัญมาที่บ้าน คงจะสะดวกและดูดีกว่า ถ้าใช้น้ำตาลที่อยู่ในรูปแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

นี่คือตัวอย่างง่าย ๆ ของรูปแบบของน้ำตาลในปัจจุบัน หากเราเลือกซื้อน้ำตาลจะเห็นได้ว่ามีรูปร่าง ลักษณะบรรจุภัณฑ์ และวิธีการใช้ที่หลากหลาย เช่น น้ำตาลทรายที่เป็นเกล็ด น้ำตาลผง หรือน้ำตาลไอซิง สามารถใช้ปรุงอาหารได้ น้ำตาลแบบก้อน ที่เข้ากันได้ดีกับชาหรือกาแฟถ้วยโปรดของคุณ ดังนั้น เรามีวิธีการเลือกน้ำตาลให้เหมาะกับอาหาร ความชอบ และสถานการณ์ต่าง ๆ ดังนี้

ในปัจจุบัน น้ำตาลมีรูปร่างแตกต่างและหลากหลายมากยิ่งขึ้น มีทั้งแบบเกล็ด แบบก้อน แบบแท่ง หรือแม้แต่ของเหลว ซึ่งเราจะนิยามการใช้สำหรับรูปร่างหลัก ๆ อย่างน้ำตาลทรายชนิดที่มาในรูปแบบเกล็ดและก้อน ส่วนน้ำตาลซองที่อยู่ในรูปแบบ 3-5 กรัม เราจะนับอยู่ในรูปแบบของเกล็ด

ข้อดีของน้ำตาลทรายแบบเกล็ด คือ สามารถละลายได้ง่ายเมื่อนำไปใช้ปรุงอาหาร น้ำตาลทรายมีหลากหลายรูปแบบ น้ำตาลทรายขาวนิยมนำไปปรุงอาหารคาว ส่วนน้ำตาลทรายแบบผงหรือน้ำตาลทรายที่ถูกบดอย่างละเอียด ซึ่งเรามักจะคุ้นเคยในชื่อ น้ำตาลไอซิงหรือน้ำตาลฟรอสติ้ง มักนิยมนำไปทำอาหารหวานจำพวกเบเกอรี่ เพราะสามารถแตกตัวเข้าเนื้อส่วนผสมได้ดีกว่า น้ำตาลทรายทั่วไปวางจำหน่ายในรูปแบบถุง 1 กิโลกรัม ดังนั้นจึงเหมาะกับนำไปปรุงอาหารมากกว่า

แต่หากคุณต้องการน้ำตาลไปวางไว้บนโต๊ะกาแฟ ร้านกาแฟ และในที่ทำงาน น้ำตาลแบบซองจะช่วยให้คุณสะดวกในการใช้งาน ซึ่งราคาจะสูงกว่าทั่วไป เพราะบรรจุภัณฑ์มีต้นทุนที่สูง แต่หากคุณซื้อในปริมาณขายส่งจำนวน 200-300 ชิ้น จะทำให้ราคาลดลงมา สำหรับราคานี้หากเทียบกับความสะดวกที่จะต้องมาคอยเติมหรือการทำความสะอาดภาชนะสำหรับใส่แล้ว ถือว่าคุ้มค่ากว่ามาก

หากพูดถึงน้ำตาลก้อน หลายคนคงนึกถึงก้อนน้ำตาลรูปทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งมีทั่วไปในประเทศไทย แต่ในความเป็นจริงแล้วน้ำตาลก้อนมีหลายรูปทรง และในร้านกาแฟบางแห่งก็มีการนำมาใช้ เพื่อให้ดูทันสมัย และให้ความรู้สึกที่ดูน่ารับประทานมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม น้ำตาลก้อนที่มีรูปทรงพิเศษ ราคาก็จะมีความพิเศษมากขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้น อาจเป็นการยากที่จะนำมาใช้ในเชิงธุรกิจ แม้ว่าทำให้เกิดความประทับใจและดูดี เมื่อวางอยู่ข้างถ้วยกาแฟ

ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณต้องเตรียมโถน้ำตาลก้อนไว้ที่โต๊ะ คุณก็ต้องบริการจานรองถ้วยและช้อนหรือที่คีบน้ำตาลให้กับผู้มาเยี่ยมเยือนด้วย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาระในการจัดเตรียมมากขึ้น

น้ำตาลไม่ได้เพียงแต่เพิ่มความหวานให้กับอาหารจานโปรดของคุณเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยเรื่องคุณค่าทางอาหารได้อีกด้วย และถ้าหากคุณคำนึงถึงเรื่องสุขภาพ แนะนำให้ใช้น้ำตาลทรายแดง ที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ธาตุเหล็ก และคุณค่าทางวิตามินต่าง ๆ

ในขณะที่น้ำตาลทรายขาวมีสารอาหารเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับน้ำตาลทรายแดง โดยเฉพาะปริมาณแคลเซียมที่ต่างกันค่อนข้างมาก ในปัจจุบันมีน้ำตาลที่มีลักษณะคล้ายน้ำตาลทรายขาว แต่มีสีน้ำตาลหรือสีรำ นั่นเป็นเพราะไม่ได้ผ่านกระบวนการทำให้ขาว น้ำตาลชนิดนี้อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นน้ำตาลทรายแดงนะคะ คนละชนิดกันค่ะ ซึ่งเรื่องของสารอาหารก็จะเหมือนกับน้ำตาลทรายขาวทุกประการนั่นเอง

และในระยะนี้ เนื่องจากเริ่มมีผู้หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น จึงเริ่มมีน้ำตาลที่ทำจากมะพร้าว ตาลโตนด หรือน้ำตาลจากหัวบีท มักวางจำหน่ายทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนี้ น้ำตาลประเภทนี้ยังมีค่าดัชนีน้ำตาล (ค่า GI) ที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ลดน้ำหนัก อีกทั้งยังมีแร่ธาตุอื่น ๆ อีกมากมาย ข้อเสียของน้ำตาลประเภทนี้ คือ มีราคาค่อนข้างสูงกว่าน้ำตาลทั่วไป ดังนั้น หากคุณต้องการนำไปใช้ในเชิงธุรกิจ อาจต้องคำนึงถึงต้นทุน

หากคุณเปิดร้านกาแฟ น้ำตาลแบบแยกเป็นซอง ๆ เช่นนี้ นอกจากจะสะดวกในการใช้งานแล้ว ยังสะอาดถูกหลักอนามัย เพราะทุกครั้งที่มีการเปิดโถน้ำตาลและใช้ช้อนตักหรือที่คีบ ก็อาจทำให้ฝุ่นหรือเชื้อโรคต่าง ๆ ปนเปื้อนลงไปได้ ซึ่งอาจมากับมือของผู้หยิบจับ ภาชนะที่ไม่มีการล้างให้สะอาด หรือสิ่งแปลกปลอมที่ตกลงไปโดยบังเอิญ ทั้งยังทำให้ภาระคุณเพิ่มเพราะต้องทำความสะอาดภาชนะที่ใส่ และช้อนหรือที่คีบน้ำตาลอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ สำหรับพื้นที่อากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทย โถน้ำตาลยังกลายเป็นแหล่งอาหารสำหรับสัตว์บางชนิดอีกด้วย เช่น มด ซึ่งสัตว์เหล่านี้อาจนำพาเชื้อโรคมาสู่อาหารของคุณได้ ดังนั้น น้ำตาลแบบซองจึงเป็นทางเลือกที่ดีหากต้องการความสะดวกสบาย อีกทั้งแพ็กเกจหรือซองที่บรรจุน้ำตาล ก็ยังมีลวดลายสวยงาม น่ารัก จึงสามารถชูหน้าตาของอาหารและร้านกาแฟของคุณให้ดูน่ารับประทาน น่าอุดหนุนอีกด้วย

ให้น้ำตาลเป็นของขวัญ? หลายท่านอาจสงสัยกันนะคะ เพราะโดยทั่วไปเราก็ใช้น้ำตาลกันในชีวิตประจำวัน คงคาดไม่ถึงว่าน้ำตาลสามารถเป็นหนึ่งในของขวัญ ของชำร่วย ได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันร้านของชำร่วยนำน้ำตาลที่มีสีสันสดใสมาตกแต่งด้วยตุ๊กตา หรือห้อยป้ายชื่อน่ารัก ๆ ลงไป ก็สามารถนำไปเป็นของแจกที่ระลึกในงานต่าง ๆ ได้ อีกทั้ง ยังมีความหมายที่ดีอีกด้วย

หากเรานำน้ำตาลไปเป็นส่วนหนึ่งในของขวัญ ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ดูทันสมัย ไม่ว่าจะมีการแยกแพ็กเกจเดี่ยวหรือสามารถแยกออกจากห่อเพื่อนำไปบรรจุเองได้ หรือแม้แต่น้ำตาลก้อนก็สามารถนำไปห่อด้วยกระดาษที่มีลวดลายหรือสีสันน่ารักสดใสด้วยตนเอง เพิ่มความสนุกสนานในการประดิษฐ์ของขวัญ และยังสามารถนำไปวางเคียงคู่กับเมนูกาแฟหรือเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มบรรยากาศก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีน้ำตาลแท่งที่สามารถนำไปเพิ่มสีสันให้กับงานปาร์ตี้ได้เป็นอย่างดี

ในเมื่อมีน้ำตาลให้เลือกหลากหลายเข่นนี้ ทำไมเราไม่ทำให้สิ่งนี้สร้างคุณค่าและความสนุกสนานให้กับเทศกาลต่าง ๆ จริงไหมคะ?

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าน้ำตาลที่วางจำหน่ายทั่วไป มีหลากหลายรุ่นและแบรนด์ แต่แบบไหน ที่จะมีความพิเศษถูกใจคุณพ่อบ้านแม่บ้าน หรือร้านค้า? แล้ว 10 อันดับนี้จะมาช่วยคุณให้คลายข้อสงสัยกันค่ะ

จากวิธีการเลือกและ 10 อันดับของน้ำตาลที่นิยมใช้กันในครัวเรือน เราจะเห็นได้ว่าน้ำตาลเป็นเครื่องปรุงที่มีรูปแบบหลากหลาย ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่วัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นอ้อย มะพร้าว ตาลโตนด และหญ้าหวานมาเป็นวัตถุดิบหลัก และยังใช้กรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมมากที่สุด เพื่อคงรสชาติหวานอย่างธรรมชาติและใช้สารเคมีให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์และรูปทรงของน้ำตาลเป็นอีกจุดสำคัญในการเลือกซื้อ เพื่อให้เหมาะแก่การนำมาใช้ปรุงอาหารได้อย่างสะดวก และจะต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่ดูดีสามารถนำออกมาใช้ได้ทันทีในโอกาสต่าง ๆ

หากเรามองกันให้ดี น้ำตาลไม่ใช่เพียงแค่เครื่องปรุงเพิ่มรสชาติให้กับเมนูโปรดของคุณเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัวได้อีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจ ที่เราจะเห็นหลายครัวเรือนให้ความสำคัญกับ "น้ำตาล"